เมื่อต้องดูตำรา :)

เมื่อเราได้ไม้มาใหม่

หรืออยากจะรู้จักชื่อเสียงเรียงนาม

หรืออยากจะสำรวจดูว่าในสวนขอเรานั้น

มีสมาชิก มากน้อยแค่ไหน

เค้าจัดกลุ่ม อย่างไร และเมื่อไปเทียบกับที่เค้าโชว์ในตำรา

ของใครจะสวยกว่ากัน

ตำราของไทย  อาจจะมีไม่มากนัก

แต่ตำราไม้สวยๆ 

หรือบางทีพาไปดูแหล่งกำเหนิด

ก็มักจะเป็นตำราภาษาอังกฤษ

หรือภาษาญี่ปุ่น

เล่มนี้พาไปตลุยมาดากัสก้า

                                                            เล่มนี้พาไปตลุยเกาะโซโครต้า

พวกนี้เป็นภาษาญี่ปุ่น แต่ชนิดและภาพสวยมากๆ

สองเล่มนี้ พาไปทั่วอเมริกาใต้

 เล่มนี้ พาไปมาดากัสก้าอีก จากปรมาจารด้านพฤษศาตร์เลยจ้า

บางเล่มถึงกับต้องสรรหามาจา e-Bay กันเรยทีเดียว

อยากให้นักต้นไม้ไทย เขียนหนังสือพรรณไม้เยอะๆ ภาพสวยๆบ้าง

ก็น่าจะนำมาศึกษา  ได้ความรู้เพิ่มขึ้นอีกเยอะเลยจ้า

:)

เมื่อมีเจ้าหน่อเล็กๆ

เมื่อ Aloe ทั้งหลายของเรา ผ่านร้อน ผ่านฝนมาได้สักพัก

หากเค้าสมบูรณ์ แข็งแรงกันดี   ก็จะมีเจ้าหน่อ ต้นเล็กๆพากันออกมา

เราอาจปล่อยทิ้งไว้ให้เค้าเติบโตเป็นพุ่มไปด้วยกัน

หรือ หากต้องการเพิ่มปริมาณ และให้เค้าเติบโตอย่างสวยงาม

ก็ควรแยกหน่อ หรือต้นเล็กๆนั้นออกมา

Aloe Kenya มีหน่อใหม่ จ้า :)

เมื่อเราดีใจ ดี๊ด๊า กับสมาชิกใหม่แล้ว

ก็ต้องให้เวลาเค้าสักพัก

ให้ต้นเล็กๆ สมบูรณ์ขึ้นหน่อยแล้วค่อยดึงแยกออกมาจากต้นแม่

ระยะแรกที่ดึงออกมา

ต้นเล็กๆบางต้นอาจมีรากบ้างนิดหน่อย หรือไม่มีเรย

เราก็ต้องนำต้นเล็กๆ พาเค้ามาเข้าอนุบาลเพาะรากกันก่อน

เพื่อความสมบูรณ์ แข็งแรง เมื่อนำไปปลูกใหม่

การเตรียมโรงเรียนอนุบาล ก็ไม่ยาก

เพียงแต่จัดหาหินภูไมต์ หรือหินภูเขาไฟ มาไว้ให้เค้าอยู่กัน

ข้อมูลหินภูไมต์ 

http://rabeangmai.blogspot.com/2014/03/00-011.html

ด้วยความโปร่ง โล่ง สบาย และอาหารไม่มากเกินไป

จะทำให้เหล่าไม้เล็กๆ สร้างรากได้เร็ว 

ซึ่งเมื่อนำไปปลูกเค้าจะแข็งแรงมากจ้า

เมื่อไม้ป่วย :(

อาการเลี้ยงไม้อวบน้ำและไม้ทนแล้งไว้กลางแจ้ง โดยที่ไม่มีโรงเรือนนั้น

มักจะพบปัญหาที่ทำให้ไม่ป่วย หรือบางทีก็ต้องลาโลกไป

ได้แก่

1. น้ำมากไป ความชื้นในดินสูง ทำให้ไม้เน่า

2. ขาดน้ำ อดน้ำตาย

3. เชื้อรา หรือแมลงบุก

สำรวจสวน หลังจากที่มีฝนตกติดกัน 2 วัน สลับกับอากาศร้อนจัด

จู่ๆก็พบ ไม้ตายไป 3-4 ต้น

ด้วยสาเหตุคือ เน่าตาย เนื่องจากน้ำเยอะ

และอาจเพราะ วันต่อมาแดดจัด 

ใบของเค้าที่เก็บน้ำไว้ก็เลยสุก 

ไม้ที่บ๊าย บาย ไปนั้น

บางต้นก่อนหน้านี้กำลังแตกหน่อ ออกลูก สวยงามดีเลย

กำลังมีลูกๆสวยงาม ต้นนี้เน่า เก็บลูกน้อยไว้ได้ 1 ต้นแต่เล็กมาก

ไม่รู้จะรอดไหม :(

3 ต้นนี้ก็คิดไม่ถึงว่าจะตายไปเสียง่ายๆ

เป็นเรื่องเศร้าจริงๆ

ภาพการจากไปของเจ้าบิ้กหนามไจแอ้น :(

จะรับมือกับฝนนี้ยังไงดีนะ ลุ้นมากเรย

เมื่อกระบองเพชร ต้นยักษ์ อวดดอก รอบ 2 :)

1 เดือนผ่านไป  ดอกใหม่ก็มา

นับจากครั้งแรกที่พี่บิ้กแคคตัส 

ออกดอกมาให้ชมทั้งหมด 7 ดอก

ครั้งก่อน ค่อยๆบาน วันละ 2 ดอก จนวันสุดท้าย บาน 3 ดอก

ผ่านมาประมาณ 1 เดือน มีดอกอีกแล้ว

ตื่นเต้น ดีใจ

ดอกตูมๆ เริ่มเป็นดอกตูมใหญ่

ต้นใหญ่ ออกดอกมาให้ชมทั้งหมด 5 ดอก 

และมีดอกของเจ้าต้นเล็กข้างๆ ออกมาด้วย 2 ดอก

ดอกของพี่บิ้กแคคตัสเหล่านี้
บานให้ชม แค่ 1 วัน
เช้านี้ เลยลองนำเกสรสีเหลืองของดอก
ไปป้ายๆกับเกสรของดอกอื่นๆ
จะมีผลเป็นอย่างไรไหมก็ไม่รู้

และหลังจากบาน รอบ  2 นี้ แล้ว
เดือนหน้า จะมาใหม่ไหมนะจ๊ะ
:)

Aloe Flower :)

พาชมดอก Aloe :)

 "อะโล" (Aloe) หรือว่านหางจรเข้ มีมากถึง 500 สายพันธุ์ แต่ละชนิดมีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนและทางตอนใต้ของทวีปแอฟริกา , มาดากัสการ์ , จอร์แดน , คาบสมุทรอาหรับและหมู่เกาะต่าง ๆ ในมหาสมุทรอินเดีย (มอริเชียส , เรอูนียง , คอโมโรส , ฯลฯ ) ไม่บางสายพันธุ์ที่ได้ยังเป็นสัญชาติในภูมิภาคอื่น ( เมดิเตอร์เรเนียน , อินเดีย , ออสเตรเลีย , นอร์ทและอเมริกาใต้ฯลฯ ). 

ที่มา : https://en.wikipedia.org/wiki/Aloe

ในบ้านเราเองก็นิยมปลูกกันเป็นไม้ประดับสวยงาม 

บางชนิดทีการตัดต่อพันธุ์ได้สีและรูปแบบของใบที่สวยแปลกตา

นักสะสมอโล ส่วนมากจะนิยมดูที่

ฟอร์มของใบโดยรวม 

เกล็ด หรือ เทคเจอร์ ที่ชัดเจน 

ฟัน เยอะๆถี่ๆรอบๆใบ 

สี สวยๆ ต่างๆ  แดงๆ  เขียวๆ ขาวๆ 

และจะเลี้ยงให้รากโตจำกัด เพื่อให้ได้ใบที่ขึ้นเกล็ด หรือ เทคเจอร์ ชัดเจน สวยงาม

แต่สำหรับดอกไม้แล้ว 

จะเลี้ยงตามธรรมชาติ ได้ฝนได้น้ำ เต็มที่ ใบค่อนข้างจะอวบอิ่ม 

และมีบำรุงด้วยออสโมโคสบ้าง

เมื่อถึงเวลา อุดมสมบูรณ์ เค้าก็มีดอก สีสันสวยงามมาให้ได้ชม

ส่วนมาก จะให้ดอกสีแดง

นี่ก็ดอกแดง แต่ช่อดอกจะแตกต่าง ตามชนิดของ Aloe

นี่ช่อดอกใหญ่ สีแดงอมส้ม สวยงาม

ส่วน Aloe ชนิดนี้ให้ดอกสีเหลือง

Aloe Kenya กิ่งดอกยาว และมีหลายช่อ

ดอกแดงเล็กๆ

อวดดอกสีเหลือง สวยงาม น่ารัก จ้า

ได้เวลาเพาะเมล็ด :)

ช่วงฝนเริ่มตก ชุ่มชื่นชุ่มฉ่ำ

เหมาะมากที่เราจะนำเมล็ดของไม้ หรือหน่อต้นเล็ก มาเพาะขยายเพื่อเพิ่มปริมาณ

ไว้แจกจ่ายเพื่อนๆ ไว้เป็นของขวัญกับผู้ที่ชอบต้นไม้เหมือนกัน

ช่วงร้อนๆที่ผ่านมา ไม้ที่มีดอกและให้เมล็ดเป็นประจำก็จะเป็น

Euphobia  หรือที่รู้จักในชื่อว่า โป๊ยเซียน

แต่ในสวนของดอกไม้  Euphobia ที่มีมากๆ ก็จะเป็นชนิดที่ต้นเล็กๆ ดอกจิ๋วๆ น่ารักๆนะจ๊ะ

ต้นจิ๋ว  ดอกเหลือง

 

                                                                    ต้นจิ๋ว  ดอกชมพู

ต้นยาว ดอกแหลม

 

ต้นเก๋า  เล็กมาก ดอกยังไม่มา แต่โคนต้นสวยมาก เป็นตุ้มเลย

ต้นจิ๋ว ดอกแดงจิ๋ว ใบยาวๆ โดนน้ำค้างตอนเช้า

ต้นยาว ดอกส้ม

รวมมิตร Euphobia

ต้นจิ๋ว ดอกแดงน้อย

ต้นเก๋า  ดอกเขียว

ต้นยาว ดอกพรึบ

เมื่อสาวๆเหล่านี้ มีมดหรือแมลง มากินน้ำหวานที่ดอก ก็จะมีการผสมเกษร

และก็จะออกเมล็ดมาให้เราเก็บมาไว้นำไปเพาะ

การเพาะเมล็ดที่ได้ ก็ไม่ยุ่งยาก

นำเมล็ดที่แห้ง มาเพาะในดิน เท่าที่สังเกตมาแล้ว

เมล็ดจะงอกงามได้ง่าย แต่ที่จะงอกได้และโตไวสุด 

จะเป็นดินที่มีเครื่องปลูกที่มีส่วนผสมของทราย ปุ๋ยคอก ขุยมะพร้าว

ลักษณะเครื่องปลูกที่ผสมออกมา จะโปร่งๆหน่อย ระบายน้ำได้ดี

วางไว้ที่โดนแดดรำไร อากาศร้อนๆชื้นๆ

ไม่ถึงสัปดาห์ ต้นน้อยๆ ก็ออกมาเจอกันล้วจ้า

นี่คือเมล็ดที่เริ่มงอก เมื่อเรานำเมล็ดมาเพาะได้ไม่นาน

และนี่คือต้นน้อยๆที่เริ่มโตจ้า :)

เมื่อกระบองเพชร ต้นยักษ์ อวดดอก :)

ช่วงร้อนๆย่างเข้าฤดูฝนนี่ ชุ่มฉ่ำดีจริงๆ

ไม้ทนแล้งทั้งหลาย ได้น้ำฝน

ก็พากันสดชื่น และผลิดอก

พี่บิ้กแคคตัส  หรือเจ้ากระบองเพชรต้นใหญ่

สูงประมาณ 150 เซนติเมตร 

ก็มีเซอร์ไพรส์ ให้ชมด้วยเช่นกัน

ดอกเริ่มมา ยังเล็กๆอยู่ รอชม

เนื่องจากเป็นมือใหม่ ปลูกไม้มาได้ ประมาณ 2 ปี

จึงตื่นเต้นจริงๆ ที่ได้ชมดอกสวยนี้เป็นครั้งแรก
ดอกตูมๆเริ่มมากันเมื่อต้นเดือนเมษายน
เมื่อเห็นดอกเล็กๆตูมๆ มาก็ดีใจมากๆ
เฝ้ารอทุกวันจน เป็นดอกใหญ่ และเริ่มผลิบาน
เมื่อประมาณกลางเดือน เมษายน

เธอพากันผลิบานครั้งแรกตอนกลางคืน
ทีทั้งหมด 7 ดอก พากันบานวันละ 2 ดอก และครั้งสุดท้ายบาน 3 ดอกพร้อมกัน
น่าเสียดายก็คือ เมื่อบานแล้วเพียง 1 วัน ก็จะเฉาทันที
ต้องรอชมดอกที่ตูม บานต่อไปนะจ๊ะ